พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย
เล่ม ๗๑.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ หน้า๓๒๘
ฉันจะปรับขนาดของตัวอักษรได้อย่างไร
คุณสามารถขยายและลดขนาดตัวอักษรของคุณได้โดยใช้คุณสมบัติการขยายของเบราว์เซอร์:
|
สุธาวรรคที่ ๑๐
|
|
สุธาปิณฑิยเถราปทานที่ ๑ (๙๑)
|
|
ว่าด้วยผลบุญของผู้บูชาบุคคลผู้ควรบูชาไม่อาจนับได้
|
| [๙๓] ใครๆ ไม่อาจจะนับบุญของบุคคลผู้บูชาพระพุทธเจ้า พระ- |
| ปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระสาวก ผู้สมควรบูชา ผู้ล่วงธรรม |
| เครื่องให้เนิ่นช้า ผู้ข้ามความโศกและความร่ำไรแล้ว ว่าบุญ |
| นี้มีประมาณเท่านี้ได้. |
| ใคร ๆ ไม่อาจจะนับบุญของบุคคล ผู้บูชาปูชารหบุคคล |
| เหล่านั้น เช่นนั้น ผู้ดับแล้ว ไม่มีภัยแต่ที่ไหน ๆ ว่าบุญนี้ |
| มีประมาณเท่านี้ได้. |
| การที่บุคคลในโลกนี้ ฟังให้ทำความเป็นใหญ่ในทวีป |
| ทั้ง ๔ นี้ ไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งการบูชานี้. |
| เรามีใจผ่องใส ได้ใส่ก้อนปูนขาวในระหว่างแผ่นอิฐ ที่ |
| พระเจดีย์ แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้เลิศ |
| กว่านระ. |
| ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วย |
| กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการปฏิสังขรณ์. |
| ในกัปที่ ๓๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๓ ครั้ง |
| ทรงพระนามว่าปฏิสังขาระ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ. |
| คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ |
| อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า |
| เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. |
| ทราบว่า ท่านพระสุธาปิณฑิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประ- |
| การฉะนี้แล. |
| จบสุธาปิณฑิยเถราปทาน |
|
สุธาวรรคที่ ๑๐
|
|
๙๑. อรรถกถาสุธาปิณฑิยเถราปทาน
|
| อปทานของท่านพระสุธาปิณฑิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปูชารเห |
| ปูชยโต ดังนี้. |
| พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสนภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ |
| สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาล |
| แห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรง |
| พระชนม์อยู่ ไม่สามารถจะบำเพ็ญบุญได้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า |
| ปรินิพพานแล้ว เมื่อมหาชนพากันก่อพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระธาตุของ |
| พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านใส่ก้อนปูนขาวก่อเจดีย์นั้น. ด้วยบุญกรรมนั้น |
| ท่านไม่เห็นอบาย ๔ ในระหว่างนี้ จำเดิมแต่กัป ๙๔ เสวยเทวสมบัติ |
| ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว |
| เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นาน ก็เป็นพระอรหันต์. |
| ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ |
| ประกาศปุพพจริตาปทานของตน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า ปูชารเห ปูชยโต |
| ดังนี้ |
| ในคำเหล่านี้ มีอธิบายดังต่อไปนี้. พระพุทธเจ้า พระปัจเจก-
|
| พุทธเจ้า พระอริยสาวก อาจารย์ อุปัชฌาย์ มารดา บิดา และครู |
| เป็นต้น ชื่อว่าปูชารหบุคคล (บุคคลที่ควรบูชา) ใคร ๆ ไม่สามารถจะทำ |
| การนับส่วนแห่งบุญที่บุคคลบูชาแล้วในปูชารหบุคคลเหล่านั้น ด้วยสักการะ |
| มีระเบียบดอกไม้ดอกปทุม ผ้า เครื่องอาภรณ์และปัจจัย ๔ เป็นต้น ด้วย |
| ทรัพย์ตั้งแสนเป็นต้น แม้ด้วยอานุภาพอันใหญ่ได้ มิใช่เพียงบูชาพระ- |
| พุทธเจ้าเป็นต้น ผู้ยังทรงพระชนม์อยู่อย่างเดียวเท่านั้น แม้บูชาใน |
| พระเจดีย์ พระปฏิมา และต้นโพธิ์เป็นต้นของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้แม้ |
| ปรินิพพานไปแล้ว ก็นัยนี้เหมือนกัน |
| เพื่อจะแสดงเรื่องนั้น จึงกล่าวคำมีอาทิว่า จตุนฺนมฺปิ จ ทีปานํ ดังนี้. |
| บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จตุนฺนมฺปิ ทีปานํ ความว่า พึงรวม |
| ทวีปทั้ง ๔ กล่าวคือ ชมพูทวีป อมรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป และ |
| บุพพวิเทหทวีป และทวีปน้อย ๒ ,๐๐๐ อันรวมอยู่ในทวีปทั้ง ๔ นั้นเข้า |
| เป็นอันเดียวกัน แล้วพึงกระทำความอิสระ คือความเป็นพระราชา |
| ผู้จักรพรรดิในห้องแห่งจักรวาลทั้งสิ้น. บทว่า เอกิสฺสา ปูชนาเยตํ |
| ความว่า นี้เป็นทรัพย์ทั้งสิ้น มีรัตนะ ๗ เป็นต้น ในชมพูทวีปทั้งสิ้น |
| แห่งการบูชาอันหนึ่ง ที่กระทำไว้ในห้องพระธาตุคือพระเจดีย์. บทว่า |
| กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ ความว่า ไม่ถึงส่วนที่ ๑๖ ที่จำแนกไว้ ๑๖ ครั้ง |
| แห่งการบูชาที่กระทำไว้ในพระเจดีย์. |
| บทว่า สิทฺธตฺถสฺส ฯ เป ฯ ผลิตนฺตเร ความว่า ในระหว่าง คือ |
| ในท่ามกลางแห่งแผ่นอิฐทั้งสองที่กำหนด ที่มหาชนพากันฉาบด้วยปูนขาว
|
| ที่ห้องเป็นที่บรรจุพระธาตุ ในพระเจดีย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า |
| สิทธัตถะ ผู้เลิศประเสริฐกว่านระ. อีกอย่างหนึ่งเชื่อมความว่า เราได้ใส่ |
| ก้อนปูนขาวลงในระหว่างที่เป็นที่ถวายดอกไม้. คำที่เหลือในบททั้งปวงมี |
| อรรถตื้นทั้งนั้นแล. |
| จบอรรถกถาสุธาปิณฑิยเถราปทาน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น